ufabet

เปิดหมดเปลือกสารคดีสู้ชีวิตของซาดิโอ มาเน่

นับเป็นเรื่องดีที่ช่วงไร้เกมฟุตบอล ยังมีอะไรให้เราได้รับชม

สารคดีเรื่องใหม่ “Sadio Mane : Made in Senegal”

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องราวชีวิตของ ซาดิโอ มาเน่ ยอดปีกทีมชาติเซเนกัล และลิเวอร์พูล โดยทาง Rakuten TV ปล่อยให้รับชมพร้อมกันเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา(ให้ชมฟรีไดเฉพาะภาคพื้นยุโรป) เรื่องราวตลอดหนึ่งชั่วโมงเศษ เป็นการตอกย้ำว่าชีวิตของ มาเน่ ผ่านอะไรมาบ้างก่อนจะโด่งดังคับฟ้าในปัจจุบัน

เรากล้าเชื่อเลยว่าแม้กระทั่งแฟนบอลที่คลั่งไคล้ทีมสุดๆ​ บางคนของ​ แมนเชสเตอร์​ ยูไนเต็ด​ ก็จะรู้สึกซาบซึ้งไปกับการเดินทางอันน่าประทับใจของ​ มาเน่ และต่อไปนี้คือ 5 ประเด็นที่เราได้เรียนรู้จากสารคดีชิ้นนี้ 1. หนีออกจากบ้านเพื่อไปเตะฟุตบอล บางทีคุณอาจรู้เรื่องนี้อยู่บ้างแล้ว แต่ในฐานะที่เด็กผู้ชายคนหนึ่ง เติบโตใน “บัมบาลี” หมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศเซเนกัล ซึ่งครอบครัวของเขาก็ไม่ได้อยากให้เด็กคนนี้เตะบอลเพื่อเลี้ยงตัวเองเลย คุณพ่อของ มาเน่ เสียชีวิตตั้งแต่เขาอายุ 7 ขวบ หน้าที่เลี้ยงดู ด.ช. มาเน่ จึงเป็นของคุณลุงซึ่งท่านมาจากครอบครัวอิหม่าม เป็นผู้นำการละหมาด และเห็นว่าการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ “คุณลุงของผมไม่อยากให้ผมเล่นฟุตบอล เพราะเขาคิดว่าการเรียนเป็นเรื่องสำคัญ แล้วเรื่องมันก็ยุ่งยากขึ้นเพราะเขาไม่ชอบอะไรแบบนั้น” มาเน่ บรรยายถึงความหลงใหลในฟุตบอลตอนเด็กๆ ถึงขั้นเคยเอา ส้มโอ และก้อนหิน มาเตะเล่นแก้เบื่อ ตอนที่ตัวเองโดนสั่งห้ามแตะลูกฟุตบอล และในหมู่บ้าน เขาคือคนที่เก่งที่สุด โดยได้รับฉายาว่า “Ballonbuwa” หรือที่แปลว่า “พ่อมดลูกหนัง”

ufabet

ในปี 2008 ตอนอายุ 16 ปี มาเน่ แอบเดินทางไปยังเมืองดาการ์ โดยไม่บอกใคร เพื่อไปคัดตัวนักฟุตบอล

แต่ที่สุดแล้ว คนที่บ้านก็ตามหา มาเน่ จนเจอและลากตัวเขากลับบ้าน อย่างไรก็ดีเขาก็ทำข้อตกลงกับครอบครัวว่าในปีหน้า จะไม่ขอเข้าเรียนในโรงเรียนอีกต่อไป และจะมุ่งมั่นกับการเล่นฟุตบอลเท่านั้น 2. ฮีโร่ในดวงใจคือ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ช่วงปี 2002 มาเน่ อายุได้ 10 ขวบ เขาดูทีมชาติบ้านเกิดทะลุผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก และเข้าชิงชนะเลิศ รายการแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์

ด้วยผู้เล่นระดับสตาร์อย่าง อาลิยู ซิสเซ่, คาลิลู ฟาดิก้า และเอล ฮัดจิ ดิยุฟ “มันเป็นยุคที่ยอดเยี่ยมของวงการฟุตบอล เซเนกัล” ลุค ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท บอกว่าไอดอลของ มาเน่ มี 2 คน “ตอนนั้น ซาดิโอ ชอบ โรนัลดินโญ่ แล้วก็ยังชอบ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ด้วย ซึ่งทั้งคู่เป็นแรงบันดาลใจให้เราเล่นฟุตบอล” “วันหนึ่ง ผมจะไปอยู่ระดับเดียวกับพวกเขา” ลุค ยกคำพูดของ มาเน่ ที่เคยว่าเอาไว้ อย่างน้อยในตอนนี้ มาเน่ ก็ได้ก้าวผ่าน ดิยุฟ ไปเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องของการคว้าความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล เขาทำอะไรๆ กับ “หงส์แดง” มากกว่าที่ แข้งรุ่นพี่ที่เคยเปิดสงครามกับอดีตทีมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเคยทำ 3. อากาศในยุโรปทำเอาเสียอาการ มาเน่ ผละถิ่นบ้านเกิด มาอยู่กับ แอฟเซ เม็ตซ์ ในปี 2011 และสิ่งแรกที่ทำให้ มาเน่ เป็นที่จดจำทันทีที่ถึงประเทศฝรั่งเศส คือเรื่องลม มาเน่ บรรยายพฤติกรรมตอนที่เพื่อนร่วมทีมเห็นเขาออกจากห้องแต่งตัวพร้อมเสื้อ ที-เชิร์ต ว่า “พวกเขาทั้งหมดเริ่มหัวเราะซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม”

เขาอธิบายว่าเขาแต่งตัวอยู่ในสภาพนั้น 5 นาที ก่อนที่จะกลับไปยังห้องแต่งตัวโดยที่หนาวสุดๆ และพอกลับไปถึงห้องแต่งตัวแล้วก็ยังทำพลาดอีก 1 อย่างคือ “ผมเอามือลงไปในน้ำร้อนๆ มันรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ โอ้ พระเจ้า มันทำให้ผมต้องเจ็บปวดในวันนั้น!” มาเน่ ย้ำว่าช่วงเวลาตอนอยู่ที่ เม็ตซ์ ทำให้เขาเป็นได้อย่างทุกวันนี้ ช่วงแรกๆ ที่อยู่ที่นี่นั้น มาเน่ ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อแต่เขาเลือกที่จะไม่บอกใคร เพราะเขากังวลว่าจะไม่ได้ลงเล่นและต้องถูกส่งตัวกลับบ้าน

ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ schoonerjoshua.com

Releated